มีกระเเสของเรื่องการทำ e-GP ระยะที่ 2 ของชาวพัสดุมาฝาก อ้างถึง กรมบัญชีกลางได้มีการพัฒนาระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) ระยะที่ 2 เพิ่มเติมจาก e-GP ระยะที่ 1 โดยครอบคลุมกระบวนการจัดซื้อทุกขึ้นตอนนั้น โดยวิธีตกลงราคาก็เป็นหนึ่งในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างซึ่งมีแนวทา่งการปฏิบัติงานในระบบ e-GP ระยะที่ 2 กรณีไหนบ้างของวิธีตกลงราคา
ที่ไม่ต้องเข้าระบบ e-GP ได้แก่
1. วงเงินการจัดหาต่ำกว่าครั้งละ 5,000 บาท
2. การดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 39 วรรค 2 "การซื้อหรือจ้างโดยวิธีตกลงราคาในกรณีที่จำเป็นเร่งด่วนโดยไม่ได้คาดการไว้ก่อนและไม่อาจดำเนินการตามปกติได้ทันให้เจ้าหน้าที่พัสดุหรือเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการนั้นดำเนินไปก่อน แล้วรีบรายงานขอความเห็นชอบต่อหัวหน้าส่วนราชการและเมื่อหัวหน้าส่วนราชการให้ความเห็นชอบแล้ว ให้ถือรายงานดังกล่าวเป็นหลักบานการตรวจรับโดยอนุโลม"
3. สำหรับรัฐวิสาหกิน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดำเนินงานในลักษณะเชิงธุรกิจประกอบกับการจัดซื้อจัดจ้าด้วยวิธีตกลงราคาซึ่งมีวงเงินไม่สูง ไม่มีการประกาศเชิญชวนแข่งขันการเสอนราคาเหมือนวิธีสอบราคาและวิธีประกวดราคา ดังนั้น ในชั้นนี้ จึงให้การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีตกลงราคาของรัฐวิสาหกิจยังไม่ต้องบันทึกข้อมูลในระบบ e-GP
4. กรณีที่เป็นเงินโครงการต่างๆของหน่วยงาน และการจ่ายเป็นเงินทดรองราชการ และการซื้อหรือรับจ้างจากบุคคลธรรมดา ไม่ต้องบันทึกข้อมูลในระบบ e-GP
อ้างอิง : ที่ กค 0421.4/ว 294 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2555 ของกรมบัญชีกลาง (แนวทางการปฏิบัติงานในระบบ e-GP ระยะที่ 2-บททั่วไป)
วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555
คณะกรรมการตรวจรับ
คณะกรรมการตรวจรับ ในกรณีนี้จะกล่าวถึงกรณีที่เป็น คณะกรรมการตรวจรับวัสดุ ครุภัณฑ์ งานจ้างเหมาบริการ
คณะกรรมการตรวจรับ ประกอบด้วยประธานกรรมการและกรรมการอื่น อย่างน้อยสองคน แต่เดิมนั้นแต่งตั่งคณะกรรมการตรวจรับจากข้าราชการตั้งแต่ระดับ 3 หรือเทียบเท่าขึ้นไป แต่ปัจจุบัน ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2552 ให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับจากข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย หรือพนักงานของรัฐ โดยคำนึงถึงลักษณะหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นสำคัญ และในกรณีจำเป็นหรือเพื่อประโยชน์ของทางราชการจะแต่งตั้งบุคคลอื่นอีกไม่เกินสองคนร่วมเป็นกรรมการด้วยก็ได้
สำหรับการซื้อจ้างในวงเงินไม่เกิน 10,000 บาท จะแต่งตั้งข้าราชการหรือลูกจ้างประจำคนหนึ่งซึ่งมิใช่ผู้จัดซื้อหรือจัดจ้างเป็นผู้ตรวจรับพัสดุหรืองานจ้างนั้น โดยให้ปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกับคณะกรรมการตรจรับพัสดุ หรือคณะกรรมการตรวจการจ้างก็ได้
เอกสารอ้างอิง :
การตรวจรับพัสดุ
การตรวจรับพัสดุ
ตามระเบียบฯ พัสดุ ข้อ 71เมื่อผู้ขาย/ผู้รับจ้าง ส่งมอบวัสดุ/ครุภัณฑ์หรืองานจ้างเหมาบริการแล้ว คณะกรรมการตรวจรับพัสดุต้องดำเนินการตรวจรับวัสดุ/ครุภัณฑ์ /งานจ้างเหมาบริการ โดยตรวจสอบความถูกต้องของวัสดุ/ครุภัณฑ์/งานจ้างเหมาบริการ ที่ผู้ขาย/ผู้รับจ้าง ส่งมอบให้ถูกต้องเป็นไปตามเงื่อนไขในข้อตกลงซื้อหรือข้อตกลงจ้าง
คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ มีหน้าที่ดังนี้
1.ตรวจรับพัสดุ ณ ที่ทำการของผู้ใช้พัสดุนั้น หรือสถานที่ซึ่งกำหนดไว้ในสัญญาหรือข้อตกลง
การตรวจรับพัสดุ ณ สถานที่อื่น ในกรณีที่ไม่มีสัญญาหรือข้อตกลง จะต้องได้รับอนุมัติจากหัวหน้าส่วนราชการก่อน
2. ตรวจรับพัสดุให้ถูกต้องครบถ้วนตามหลักฐานที่ตกลงกันไว้ สำหรับกรณีที่มีการทดลอง
หรือตรวจสอบในทางเทคนิค หรือทางวิทยาศาสตร์ จะเชิญผู้ชำนาญการ หรือผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับพัสดุนั้นมาให้คำปรึกษาหรือส่งพัสดุนั้นไปทดลองหรือตรวจสอบ ณ สถานที่ของผู้ชำนาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒินั้นๆ ก็ได้
3.โดยปกติให้ตรวจรับพัสดุในวันที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างนำพัสดุมาส่งและให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็วที่สุด
4.เมื่อตรวจถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้รับพัสดุไว้และถือว่าผู้ขายหรือผู้รับจ้างได้ส่งมอบพัสดุ
ถูกต้องครบถ้วนตั้งแต่วันที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างนำพัสดุนั้นมาส่ง แล้วมอบแก่เจ้าหน้าที่พัสดุ พร้อมกับทำใบตรวจรับ โดยลงชื่อไว้เป็นหลักฐานอย่างน้อยสองฉบับ มอบแก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง 1 ฉบับ และเจ้าหน้าที่พัสดุ 1 ฉบับ เพื่อดำเนินการเบิกจ่ายเงินตามระเบียบว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินจากคลังและรายงานให้หัวหน้าส่วนราชการทราบ
5.ในกรณีที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างส่งมอบพัสดุถูกต้องแต่ไม่ครบจำนวน หรือส่งมอบครบจำนวน
แต่ไม่ถูกต้องทั้งหมด ถ้าสัญญาหรือข้อตกลงมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นให้ตรวจรับไว้เฉพาะจำนวนที่ถูกต้อง โดยถือปฏิบัติตาม (4) และโดยปกติให้รีบรายงานหัวหน้าส่วนราชการเพื่อแจ้งให้ผู้ขายหรือผู้-รับจ้างทราบภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันตรวจพบ แต่ทั้งนี้ไม่ตัดสิทธิ์ของส่วนราชการที่จะปรับผู้ขายหรือผู้รับจ้างในจำนวนที่ส่งมอบไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องนั้น
6.การตรวจรับพัสดุที่ประกอบกันเป็นชุดหรือหน่วย ถ้าขาดส่วนประกอบอย่างใดอย่างหนึ่ง
ไปแล้วจะไม่สามารถใช้การได้โดยสมบรูณ์ให้ถือว่าผู้ขายหรือผู้รับจ้างยังมิได้ส่งมอบพัสดุนั้น และโดยปกติให้รีบรายงานหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อแจ้งให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทราบภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันที่ตรวจพบ
7.ถ้ากรรมการตรวจรับพัสดุบางคนไม่ยอมรับพัสดุ โดยทำความเห็นแย้งไว้ให้เสนอหัวหน้า
ส่วนราชการเพื่อพิจารณาสั่งการ ถ้าหัวหน้าส่วนราชการสั่งการให้รับพัสดุนั้นไว้ จึงดำเนินการตาม (4) หรือ (5) แล้วแต่กรณี
จรรยาบรรณของผู้ปฏิบัติงานด้านพัสดุ
เพื่อย้ำเตือนให้กับผู้ปฎิบัติงานตระหนักถึงหน้าที่ ความถูกต้อง มาดูกันว่าจรรยาบรรณที่ควรรู้มีอะไรบ้าง ตามจรรยาบรรณของผู้ปฏิบัติงานด้านพัสดุ พ.ศ. 2543 มี 12 ข้อดังนี้
๑. วางตัวเป็นกลางในการดำเนินการเกี่ยวกับการพัสดุ
๒. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตสำนึก
และด้วยความโปร่งใส สามารถให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบได้ทุกเวลา
๓. มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง
และพัฒนางาน โดยเรียนรู้ถึงเทคนิควิทยาการใหม่ ๆ เพิ่มเติมอยู่เสมอ
และนำมาปฏิบัติงานให้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลดียิ่งขึ้น
๔. ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดถือกฎหมาย
กฎ ระเบียบปฏิบัติของทางราชการอย่างเคร่งครัด
๕. ดำเนินการให้มีการใช้จ่ายเงิน
และทรัพย์สินของหน่วยงานอย่างประหยัด คุ้มค่า และให้เกิดประโยชน์สูงสุด
๖. คำนึงถึงประโยชน์ของหน่วยงานและประโยชน์ของส่วนรวมของราชการเป็นหลัก
โดยคำนึงถึงความถูกต้อง ยุติธรรมและความสมเหตุสมผลประกอบด้วย
๗. ปฏิบัติงานร่วมกับผู้บังคับบัญชาและผู้ร่วมงานด้วยความเอาใจใส
โดยให้ความร่วมมือช่วยเหลือในเรื่องการให้ความคิดเห็นตามหลักวิชาการ แก้ไขปัญหาร่วมกัน
และการพัฒนางาน
๘. ไม่เรียก รับ
หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อย่างใดทั้งโดยตรงและโดยอ้อมจากผู้ขาย ผู้รับจ้าง
หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่เข้ามามีนิติสัมพันธ์กับทางราชการเกี่ยวกับการพัสดุ
เพื่อตนเองหรือ ผู้อื่นโดยมิชอบ
๙. ปฏิบัติต่อผู้ขาย
ผู้รับจ้าง
หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่เข้ามามีนิติสัมพันธ์กับทางราชการเกี่ยวกับการพัสดุ
รวมถึงการรับฟังผู้มาร้องเรียน ร้องทุกข์ ด้วยความเป็นธรรม เอื้อเฟื้อ มีน้ำใจ
แต่ทั้งนี้ การปฏิบัติ
ดังกล่าวต้องไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม
ดังกล่าวต้องไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม
๑๐. ให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการเสริมสร้างมาตราฐานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับงานด้านพัสดุ
ให้สามารถพัฒนางานจนเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าเป็นวิชาชีพเฉพาะสาขาหนึ่ง
๑๑. ผู้บังคับบัญชาด้านพัสดุพึงใช้ดุลพินิจในการปฏิบัติงาน
และในการส่งเสริม สนับสนุน
การให้คำปรึกษา คำแนะนำ และรับฟังความคิดเห็นของผู้ปฏิบัติงานอย่างมีเหตุผล
การให้คำปรึกษา คำแนะนำ และรับฟังความคิดเห็นของผู้ปฏิบัติงานอย่างมีเหตุผล
๑๒. ผู้บังคับบัญชาด้านพัสดุพึงควบคุม
ตรวจสอบ ดูแล และกำชับให้ผู้ปฏิบัติงาน
ประพฤติปฏิบัติตามจรรยาบรรณนี้อย่างเคร่งครัด
ในกรณีที่พบว่ามีการประพฤติปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามจรรยาบรรณนี้
ให้ดำเนินการตามควรแก่กรณี เพื่อให้มีการดำเนินการให้ถูกต้องตามจรรยาบรรณนี้ต่อไป
ที่มา:หนังสือที่ นร (กวพ) ๑๓๐๕/ว ๒๓๒๔ ลง ๑๓ มี.ค.๔๓
วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555
วิธีตกลงราคา
วิธีตกลงราคา (ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535) เป็นวิธีจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท และผู้ซื้อสามารถติดต่อกับผู้ค้าได้โดยตรง มีการเปรียบเทียบราคาของผู้ค้า แล้วจึงตัดสินใจซื้อ/จ้าง ต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของหน่วยงาน
การจัดทำใบสั่งซื้อ/จ้าง
ในส่วนของมหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีการทำข้อตกลงในหน่วยงานดังนี้
1.กรณีเงินรายได้
1.1 ซื้อ วงเงิน 10,000 บาท ขึ้นไป ให้ทำใบสั่งซื้อ
1.2 จ้าง วงเงิน 5,000 บาท ขึ้นไป ให้ทำใบสั่งจ้าง + ติดอากรแสตมป์
2.กรณีเงินงบประมาณแผ่นดิน
2.1 ซื้อ วงเงิน 5,000 บาท ขึ้นไป ทำใบสั่งซื้อ
2.2 จ้าง วงเงิน 5,000 บาท ขึ้นไป ทำใบสั่งจ้าง + ติดอากรแสตมป์
หมายเหตุ การจ้างทำของต้องติดอากรแสตมป์
***ติดอากร พันละ 1 บาท*** หมายถึง จ้างทำของทุกๆ 1,000 บาท จะเท่ากับอากรแสตมป์ 1 บาท และเศษของ 1,000 ก็ให้คิดเป็นอากรแสตมป์ 1 บาท เช่น จ้างทำของ 55,200บาท ต้องติดอากรแสตมป์จำนวน 56 บาท
คณะกรรมการตรวจรับนั้น ให้ดูวงเงินในการจัดซื้อ/จ้าง
1.กรณีซื้อ/จ้าง ในวงเงินไม่เกิน 10,000 บาท กรรมการตรวจรับ 1 คน ขึ้นไป
2.กรณีซื้อ/จ้าง ในวงเงิน 10,000 บาท ขึ้นไป กรรมการตรวจรับ 3 คน
การจัดทำใบสั่งซื้อ/จ้าง
ในส่วนของมหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีการทำข้อตกลงในหน่วยงานดังนี้
1.กรณีเงินรายได้
1.1 ซื้อ วงเงิน 10,000 บาท ขึ้นไป ให้ทำใบสั่งซื้อ
1.2 จ้าง วงเงิน 5,000 บาท ขึ้นไป ให้ทำใบสั่งจ้าง + ติดอากรแสตมป์
2.กรณีเงินงบประมาณแผ่นดิน
2.1 ซื้อ วงเงิน 5,000 บาท ขึ้นไป ทำใบสั่งซื้อ
2.2 จ้าง วงเงิน 5,000 บาท ขึ้นไป ทำใบสั่งจ้าง + ติดอากรแสตมป์
หมายเหตุ การจ้างทำของต้องติดอากรแสตมป์
***ติดอากร พันละ 1 บาท*** หมายถึง จ้างทำของทุกๆ 1,000 บาท จะเท่ากับอากรแสตมป์ 1 บาท และเศษของ 1,000 ก็ให้คิดเป็นอากรแสตมป์ 1 บาท เช่น จ้างทำของ 55,200บาท ต้องติดอากรแสตมป์จำนวน 56 บาท
คณะกรรมการตรวจรับนั้น ให้ดูวงเงินในการจัดซื้อ/จ้าง
1.กรณีซื้อ/จ้าง ในวงเงินไม่เกิน 10,000 บาท กรรมการตรวจรับ 1 คน ขึ้นไป
2.กรณีซื้อ/จ้าง ในวงเงิน 10,000 บาท ขึ้นไป กรรมการตรวจรับ 3 คน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)